วิธีการใช้แอร์ในช่วงฤดูหนาวให้ประหยัดไฟฟ้าปฏิบัติได้คือ
1. งดการใช้แอร์ ด้วยการเปิดหน้าต่างและประตูให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก จะทำให้บ้านได้รับลมเย็นโดย-ธรรมชาติจึงไม่ต้องเปิดแอร์
2. ลดชั่วโมงการทำงานของแอร์ การตั้งเวลาปิดแอร์ก่อนตื่นนอนประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง เพราะอากาศในตอนเช้าจะค่อนข้างเย็นจึงทำให้ความเย็นในห้องยังคงอยู่ เช่น หากเราปิดเครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 บีทียู เร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง จะช่วยลดการใช้ไฟได้ 30 หน่วยต่อเดือน หรือคิดเป็นเงินประหยัดได้ 75 บาทต่อเดือน
3. การเพิ่มอุณหภูมิแอร์ เพื่อช่วยประหยัดพลังงานเพราะการเพิ่มอุณหภูมิทุกๆ 1 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดไฟได้ประมาณร้อยละ 10
4. เปิดพัดลมแทนแอร์ จะช่วยประหยัดไฟได้ร้อยละ 90 เนื่องจากพัดลม 1 เครื่อง จะใช้ไฟฟ้าประมาณ 70 วัตต์ ในขณะที่แอร์ขนาด 12,000 บีทียู ใช้ไฟฟ้าถึง 1,000 วัตต์ ดังนั้น หากเปิดพัดลมแทนแอร์วันละ 1 ชั่วโมงในช่วงฤดูหนาว จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ประมาณเดือนละ 60 บาท
ส่วนเครื่องทำน้ำอุ่นนิยมใช้มากในฤดูหนาว โดยพบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งกินไฟสูงมากกว่า 3,300 วัตต์ขึ้นไป ดังนั้น เพื่อให้การใช้เครื่องทำน้ำอุ่นประหยัดพลังงาน จึงมีข้อปฏิบัติหลายวิธีด้วยกัน เริ่มตั้งแต่การเลือกซื้อ ก็ควรเลือกแบบชนิดแยกคือ 1 เครื่องต่อ 1 ห้อง ซึ่งประหยัดกว่าแบบรวมที่ป้อนน้ำอุ่นได้ครั้งละหลาย ๆ ห้อง และควรเลือกชนิดที่มีถังเก็บน้ำภายในตัวเครื่อง และมีฉนวนหุ้มตัวถัง จะประหยัดกว่าชนิดที่ไม่มีประมาณ 10-20% ส่วนวิธีการใช้ก็ควรใช้เฉพาะเวลาอากาศหนาวเย็น เช่น ตอนเช้าหรือตอนเย็น และขณะฟอกสบู่หรือสระผม ควรปิดน้ำก่อน ไม่ควรเปิดน้ำทิ้งไว้เพราะจะทำให้เครื่องทำงานตลอดเวลา นอกจากนี้ ควรตั้งความแรงของน้ำไว้ที่ระดับปานกลางและควรใช้หัวฝักบัวชนิดประหยัดน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำร้อนสม่ำเสมอและช่วยทำให้ประหยัดไฟมากขึ้น ที่สำคัญหลังจากการใช้ทุกครั้งควรปิดน้ำและสวิตช์เครื่องทำน้ำอุ่นทันที
จะเห็นว่า เพียงแค่เรารู้จักวิธีหรือเคล็ดลับง่าย ๆ ในการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า ก็มีผลต่อการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ และหากทุกคนได้นำแนวทางและวิธีการประหยัดพลังงานไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนก็จะทำให้สามารถประหยัดค่าไฟ เก็บเงินไว้ในกระเป๋าไปได้มากทีเดียว
|